อาหารไม่หวาน ที่เสี่ยงโรคเบาหวานสุดๆ
การทานหวานมากๆ เสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน การลดหรืองดน้ำตาลและอาหารรสหวานจัดไม่เพียงพอที่จะเลี่ยงอาการของโรคเบาหวานได้ ยังมีอาหารอีกหลายอย่างที่หากทานในปริมาณที่มากเกินไป ก็เสี่ยงต่อโรคเบาหวานได้เหมือนกัน เช่น
=>อาหารกลุ่มแป้ง คือ อาหารในกลุ่มที่ให้พลังงานแก่ร่างกายโดยตรง การทานมากเกินที่ร่างกายต้องการ จะเปลี่ยนเป็นไขมันสะสมตามส่วนต่างๆของร่างกาย การทานแป้งมากเกินไป ก็ไม่ต่างอะไรกับการทานของหวานมากๆ ที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานเหมือนกัน เช่น ข้าวขาว ขนมปังขาว มันฝรั่ง ซาลาเปา หมั่นโถ ขนมจีบ เกี๊ยวทอด ขนมจีน เส้นก๋วยเตี๋ยว แป้งพิซซ่า
TIP : ควรเลือกคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนเป็นอาหารหลัก เพื่อให้ได้พลังงานที่ค่อยๆเพิ่มขึ้นในกระแสเลือดให้เซลล์ค่อยๆดึงน้ำตาลไปใช้ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดค่อนข้างสมดุล อาหารในกลุ่มนี้ได้แก่ ธัญพืชต่างๆ ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีทเป็นต้น
=> ไขมัน : การบริโภคไขมันในปริมาณที่มากเกินไป โดยเฉพาะไขมันที่มาจากสัตว์ เช่น หมู เนื้อ ทำให้เราอ้วน จะทำให้มีปริมาณไขมันในเลือดสูง อาจเสี่ยงโรคเบาหวานได้เหมือนกัน เช่น หมูย่าง เนื้อย่างติดมัน เบคอน หมูสามชั้น ข้าวขาหมู หนังหมู ชีส (ไขมันนม)
TIP : ควรทานอาหารที่มีไขมันดีอยู่มาก คือ น้ำมันพืชต่างๆ เช่น น้ำมันเมล็ดทานตะวัน น้ำมันข้าวโพด น้ำมันถั่วเหลือง ถั่วชนิดต่างๆ นมถั่วเหลือง เมล็ดทานตะวัน ไข่และปลาทะเลอีกด้วย นอกจากการทานอาหารที่มีไขมันดีเพราะมีประโยชน์ต่อร่างกาย ควรกินอาหารให้ครบทุกหมู่ ดื่มน้ำสะอาดอย่างพอเพียง และออกกำลังกายทุกวันด้วยนะคะ
=> อาหารรสจัด : รสหวานที่แฝงอยู่ในอาหารรสจัดนั้น อาจเสี่ยงโรคเบาหวานเพราะรสชาติอื่นกลบจนอาจสัมผัสไม่ได้ เช่น ต้มยำ ยำ ส้มตำ ต้มแซ่บ ผัดพริก ผัดเผ็ด อาหารกระป๋อง อาหารสำเร็จรูปบางชนิด
TIP : ผู้ป่วยเบาหวานควรทานอาหารให้ถูกสัดส่วน คือ ทานแป้งไม่ขัดขาว 30 เปอร์เซ็นต์ ผักดิบและผักปรุงสุก 35 เปอร์เซ็นต์ถั่วต่างๆ และผลิตภัณฑ์จากถั่ว 25 เปอร์ฌซ็นต์ อาหารเบ็ดเตล็ด เช่น ซุปมิโซะ งา เมล็ดฟักทอง และผลไม้ 10 เปอร์เซ็นต์ และโปรตีนจากสัตว์ เช่น ปลาและอาหารทะเล สัปดาห์ละ 1 – 2 มื้อ
=>อาหารกลุ่มแป้ง คือ อาหารในกลุ่มที่ให้พลังงานแก่ร่างกายโดยตรง การทานมากเกินที่ร่างกายต้องการ จะเปลี่ยนเป็นไขมันสะสมตามส่วนต่างๆของร่างกาย การทานแป้งมากเกินไป ก็ไม่ต่างอะไรกับการทานของหวานมากๆ ที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานเหมือนกัน เช่น ข้าวขาว ขนมปังขาว มันฝรั่ง ซาลาเปา หมั่นโถ ขนมจีบ เกี๊ยวทอด ขนมจีน เส้นก๋วยเตี๋ยว แป้งพิซซ่า
TIP : ควรเลือกคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนเป็นอาหารหลัก เพื่อให้ได้พลังงานที่ค่อยๆเพิ่มขึ้นในกระแสเลือดให้เซลล์ค่อยๆดึงน้ำตาลไปใช้ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดค่อนข้างสมดุล อาหารในกลุ่มนี้ได้แก่ ธัญพืชต่างๆ ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีทเป็นต้น
=> ไขมัน : การบริโภคไขมันในปริมาณที่มากเกินไป โดยเฉพาะไขมันที่มาจากสัตว์ เช่น หมู เนื้อ ทำให้เราอ้วน จะทำให้มีปริมาณไขมันในเลือดสูง อาจเสี่ยงโรคเบาหวานได้เหมือนกัน เช่น หมูย่าง เนื้อย่างติดมัน เบคอน หมูสามชั้น ข้าวขาหมู หนังหมู ชีส (ไขมันนม)
TIP : ควรทานอาหารที่มีไขมันดีอยู่มาก คือ น้ำมันพืชต่างๆ เช่น น้ำมันเมล็ดทานตะวัน น้ำมันข้าวโพด น้ำมันถั่วเหลือง ถั่วชนิดต่างๆ นมถั่วเหลือง เมล็ดทานตะวัน ไข่และปลาทะเลอีกด้วย นอกจากการทานอาหารที่มีไขมันดีเพราะมีประโยชน์ต่อร่างกาย ควรกินอาหารให้ครบทุกหมู่ ดื่มน้ำสะอาดอย่างพอเพียง และออกกำลังกายทุกวันด้วยนะคะ
=> อาหารรสจัด : รสหวานที่แฝงอยู่ในอาหารรสจัดนั้น อาจเสี่ยงโรคเบาหวานเพราะรสชาติอื่นกลบจนอาจสัมผัสไม่ได้ เช่น ต้มยำ ยำ ส้มตำ ต้มแซ่บ ผัดพริก ผัดเผ็ด อาหารกระป๋อง อาหารสำเร็จรูปบางชนิด
TIP : ผู้ป่วยเบาหวานควรทานอาหารให้ถูกสัดส่วน คือ ทานแป้งไม่ขัดขาว 30 เปอร์เซ็นต์ ผักดิบและผักปรุงสุก 35 เปอร์เซ็นต์ถั่วต่างๆ และผลิตภัณฑ์จากถั่ว 25 เปอร์ฌซ็นต์ อาหารเบ็ดเตล็ด เช่น ซุปมิโซะ งา เมล็ดฟักทอง และผลไม้ 10 เปอร์เซ็นต์ และโปรตีนจากสัตว์ เช่น ปลาและอาหารทะเล สัปดาห์ละ 1 – 2 มื้อ
กุญแจ สำคัญของการป้องกันโรคเบาหวาน
คือการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด หากระดับของคุณอยู่ที่ 100-125 mg/dl เขาจะเรียกว่าเป็นภาวะเสี่ยงก่อนเป็นเบาหวาน (Prediabetes) ในขณะที่ ต่ำกว่า 100 mg/dl ถือว่าปกติ แต่หากมันพุ่งพรวดเกิน 125 mg/dl นั่นหมายความว่าคุณอาจเป็น 1 ใน 285 ล้านคนทั่วโลกที่เป็นเบาหวาน (ที่มา : International Diabetes Federation) ควรป้องกันด้วยการทานอาหารโดย
1.ดูแลน้ำหนัก : ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ เพราะน้ำหนักตัวที่มากเกินไป ร่างกายเราจะประสบปัญหาในการใช้อินซูลินเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ่ควรลดน้ำหนักให้ได้เพียง 5-10% ด้วยการออกกำลังและกินอาหารที่มีประโยชน์เป็นวิธีที่ดีที่สุด ซึ่งไม่ใช่การไดเอ็ตแบบอดอาหาร
2.ดื่มกาแฟและชา : 3-4 แก้วต่อวัน มีไฟโตนิวเทรียนซึ่งเกี่ยวเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานที่ลดลง 25% ส่วนการดื่มชาเขียวหรือชาดำในปริมาณเท่ากันก็จะลดได้ถึง 18% เมื่อเทียบกับคนที่ดื่มชาหรือกาแฟเพียงแก้วเดียว
3.กินใยอาหารมาก ๆ : ช่วยป้องกันโรคเบาหวานได้ เพราะร่างกายของเราจะต้องใช้เวลานานในการย่อยสลายอาหารที่มีใยอาหารสูง ควรทานให้ได้วันละ 45-50 กรัม การทานใยอาหารสูงจะไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้น แต่จะเพิ่มระดับอย่างค่อยเป็นค่อยไป
4.อย่าอดอาหาร : การกินอาหารครบทุกมื้อเป็นกิจวัตรสำคัญต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ ให้พุ่งสูงขึ้นจนอาจกระตุ้นให้ตับอ่อนสร้างอินซูลินมากขึ้น ดังนั้น จึงต้องเว้นระยะระหว่างมื้อให้พอเหมาะ หากมื้อใดห่างกันเกิน 4 ชั่วโมงก็ควรจะกินอาหารว่างที่ไม่ก่อโทษ
1.ดูแลน้ำหนัก : ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ เพราะน้ำหนักตัวที่มากเกินไป ร่างกายเราจะประสบปัญหาในการใช้อินซูลินเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ่ควรลดน้ำหนักให้ได้เพียง 5-10% ด้วยการออกกำลังและกินอาหารที่มีประโยชน์เป็นวิธีที่ดีที่สุด ซึ่งไม่ใช่การไดเอ็ตแบบอดอาหาร
2.ดื่มกาแฟและชา : 3-4 แก้วต่อวัน มีไฟโตนิวเทรียนซึ่งเกี่ยวเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานที่ลดลง 25% ส่วนการดื่มชาเขียวหรือชาดำในปริมาณเท่ากันก็จะลดได้ถึง 18% เมื่อเทียบกับคนที่ดื่มชาหรือกาแฟเพียงแก้วเดียว
3.กินใยอาหารมาก ๆ : ช่วยป้องกันโรคเบาหวานได้ เพราะร่างกายของเราจะต้องใช้เวลานานในการย่อยสลายอาหารที่มีใยอาหารสูง ควรทานให้ได้วันละ 45-50 กรัม การทานใยอาหารสูงจะไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้น แต่จะเพิ่มระดับอย่างค่อยเป็นค่อยไป
4.อย่าอดอาหาร : การกินอาหารครบทุกมื้อเป็นกิจวัตรสำคัญต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ ให้พุ่งสูงขึ้นจนอาจกระตุ้นให้ตับอ่อนสร้างอินซูลินมากขึ้น ดังนั้น จึงต้องเว้นระยะระหว่างมื้อให้พอเหมาะ หากมื้อใดห่างกันเกิน 4 ชั่วโมงก็ควรจะกินอาหารว่างที่ไม่ก่อโทษ
Tip : ควรทานแบบ "เมดิเตอร์เรเนียน" ซึ่ง หมายถึงการกินผักและผลไม้ที่หลากหลาย กินธัญพืช กินถั่ว กินไขมัน อย่างเช่น ไขมันจากน้ำมันมะกอก และกินโปรตีนไม่ติดมัน อย่างเช่น ปลาและเนื้อไก่ และควรเลือกปริมาณการทานอาหารในแต่ละกลุ่ม ที่ตัวเลขต่ำสุด เพื่อ ให้ได้พลังงานเฉลี่ยประมาณ 1600 กิโลแคลอรี่ หรืออาจปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับตัวคุณได้อีกครั้ง การกินทดแทนหรือสลับเปลี่ยนกับอาหารในกลุ่มเดียวกันบ้างจะทำให้เกิดประโยชน์ ที่หลากหลายยิ่งขึ้น ผู้เป็นเบาหวานอาจยึดหลักใช้เท่าใหร่กินเท่านั้น โดยดูแลการรับประทานอาหารให้สม่ำเสมอครบมื้อเพื่อให้ระดับน้ำตาลในเลือดใน แต่ละวันเป็นไปอย่างเหมาะสม
สุดท้ายแล้ว โรคเบาหวานมีสาเหตุทั้งมาจากนิสัยการกิน และกรรมพันธุ์ หากคุณรู้ตัวว่าตัวเองเป็นผู้มีความเสี่ยง ควรทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ไม่ทานหมู่ใดหมู่หนึ่งมากเกินไป เลือกทานอาหารให้หลากหลาย ปรุงรสอ่อนๆ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หรือหาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อช่วยในการเผาผลาญไขมันและน้ำตาลในร่างกายเป็นตัวช่วยอีกทางหนึ่งก็ได้นะคะ

สนับสนุนโดย..."แอนซิม่า"ต้นฉบับปรับสมดุลสุขภาพ..
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีประโยชน์และความปลอดภัยสูง ประกอบด้วยเอนไซน์จากขบวนการสังเคราะห์ของจุลชีพที่เป็นประโยชน์หลายชนิด บรรจุอยู่ในส่วนผสมของรำข้าวสกัด จมูกข้าวสาลี นมผงพร่องมันเนย โปรตีนสกัดจากถั่วเหลือง และจุลินทรีย์บริสุทธิ์ 5 ชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย การ ทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแอนซิม่า เหมือนกันกับการเติมน้ำให้ชีวิตที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อให้เรียบเสมอกัน ช่วยในการชะลอวัย ทำให้ดูเป็นหนุ่มเป็นสาวกว่าอายุที่แท้จริง ช่วยทำให้เซลล์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ 4 ประการ คือ
· กระบวนการย่อยสมบูรณ์ทั้งระบบ ทำให้เซลล์ได้รับอาหาร และออกซิเจนเต็มที่
· ย่อยสลายสารพิษที่ตกค้าง ในเลือด และในอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะที่ ตับ และไต
· ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อรา พร้อมเพิ่มคุณภาพภูมิต้านทานต้านเชื้อไวรัส
· ต่อต้านอนุมูลอิสระที่จะมาทำร้ายเซลล์
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีประโยชน์และความปลอดภัยสูง ประกอบด้วยเอนไซน์จากขบวนการสังเคราะห์ของจุลชีพที่เป็นประโยชน์หลายชนิด บรรจุอยู่ในส่วนผสมของรำข้าวสกัด จมูกข้าวสาลี นมผงพร่องมันเนย โปรตีนสกัดจากถั่วเหลือง และจุลินทรีย์บริสุทธิ์ 5 ชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย การ ทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแอนซิม่า เหมือนกันกับการเติมน้ำให้ชีวิตที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อให้เรียบเสมอกัน ช่วยในการชะลอวัย ทำให้ดูเป็นหนุ่มเป็นสาวกว่าอายุที่แท้จริง ช่วยทำให้เซลล์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ 4 ประการ คือ
· กระบวนการย่อยสมบูรณ์ทั้งระบบ ทำให้เซลล์ได้รับอาหาร และออกซิเจนเต็มที่
· ย่อยสลายสารพิษที่ตกค้าง ในเลือด และในอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะที่ ตับ และไต
· ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อรา พร้อมเพิ่มคุณภาพภูมิต้านทานต้านเชื้อไวรัส
· ต่อต้านอนุมูลอิสระที่จะมาทำร้ายเซลล์
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม/สั่งซื้อสินค้าและแจ้งโอนเงิน 3 ช่องทางนี้เท่านั้น
1. Call center : โทร. 088-536-2211 088-536-3322 088-536-4433 02-444-6544
รับสาย 08.00 - 19.00 น. ทุกวัน นอกช่วงเวลาดังกล่าวกรุณาติดต่อทางข้อความ
2. สั่งซื้อที่เว็บไซต์ : http://www.saledeshop.com/main/health_list_detail.php?id=21
3. ทาง line : Id line Enzyme.co.th
โทร. 092-4016363,080-1829944
1. Call center : โทร. 088-536-2211 088-536-3322 088-536-4433 02-444-6544
รับสาย 08.00 - 19.00 น. ทุกวัน นอกช่วงเวลาดังกล่าวกรุณาติดต่อทางข้อความ
2. สั่งซื้อที่เว็บไซต์ : http://www.saledeshop.com/main/health_list_detail.php?id=21
3. ทาง line : Id line Enzyme.co.th
โทร. 092-4016363,080-1829944