healthy2balance
  • ตอบโจทย์สุขภาพ
  • เอนไซม์ คืออะไร
  • เอนไซม์กับจุลินทรีย์โปรไบโอติก
    • จุลินทรีย์โปรไบโอติค
    • โปรไบโอติคแก้หวัดได้
  • เอนไซม์บำบัด
    • เอนไซม์บำบัด BY ดร.วิสุทธิ์
  • รวมผลิตภัณฑ์เอนไซม์บำบัด
    • เอนไซม์กับโรคเสื่อมเรื้อรัง
    • เอนไซม์กับสมรรถภาพทางเพศ
    • เอนไซม์สลายไขมันกับการลดน้ำหนัก
    • เอนไซม์บำรุงสมองและสายตา
    • เอนไซม์กับบำรุงและปรับสมดุลสุขภาพ
    • เอนไซม์กับความงามของผิวพรรณ
    • เอนไซม์เม็ดล้างผัก(Healthy Daily)
  • ทานเอนไซม์+ดื่มน้ำให้ได้ผลสูงสุด
    • ประโยชน์การดื่มน้ำอุ่น
    • ดื่มน้ำถูกวิธี..ดีต่อสุขภาพ
    • ดื่มน้ำ..บำบัดโรค
  • เอนไซม์กับโรคต่างๆในร่างกาย
    • 7 ขั้นตอน การเกิดโรคเสื่อมในร่างกาย
    • ท้องผูก..แสนอึดอัด
    • ท้องอืด..อาหารไม่ย่อย
  • โรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ (ED)
    • มือเท้าเย็น..เป็นโรคเสื่อมสมรรถภาพฯ
    • โรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศกับโรคหัวใจ
    • สัญญานเตือน..โรคร้ายของผู้ชาย
    • มองดู..ผู้ชายวัยทอง
  • โรคเกี่ยวกับต่อมลูกหมาก
    • สัญญานมะเร็งต่อมลูกหมาก
    • โรคต่อมลูกหมากโต
  • เอนไซม์กับระบบภูมิคุ้มกัน
  • เอนไซม์กับโรคเก๊าต์
  • กลไกการเกิดโรคมะเร็ง
    • โรคมะเร็งเต้านม
  • โรคเบาหวาน
  • โรคหัวใจ
  • โรคความดันโลหิตสูง
  • โรคไขมันในเลือดสูง
    • อาหาร..สำหรับโรคไขมันสูง
  • สัญญานเตือน..โรคหลอดเลือดสมอง
    • โรคหลอดเลือดสมอง-อัมพาต
    • โรคสมองเสื่อม-การป้องกัน
    • ประเภทของโรคอัมพฤกษ์
    • โรคอัมพฤกษ์-อัมพาต
  • โรคเกี่ยวกับตับ
    • ภาวะดีซ่าน ตัวเหลือง ตาเหลือง
    • โรคไขมันพอกตับ
    • โรคไวรัสตับอักเสบ
    • โรคตับอักเสบ
    • โรคตับแข็ง
    • โรคมะเร็งตับ
  • โรคภูมิแพ้
  • โรคกระดูกพรุน
  • บทความสุขภาพน่ารู้
    • เชื้อราแคนดิดา
    • อาหารไม่หวาน..แต่เสี่ยงเป็น"โรคเบาหวาน"
    • เมื่อ..ร่างกายขาดสมดุล
    • ทานมื้อเช้า..เลี่ยงโรคหัวใจ!!
    • เพิ่มพลังให้หายเฉา..ยามบ่ายแก่ๆ
    • จัดอาหารเพิ่มพลัง"มื้้อเช้า"
    • "เจ็บคอ"..ต้องระวัง!!
    • กล่องโฟม..เสี่ยงมะเร็ง!!
    • อาหารลดคลอเรสเตอรอล
    • ผิวไหม้แดดทำอย่างไรดี??
    • ความเครียดกับโรคกระดูกพรุน
    • น้ำมันมะกอก..ลดเสียงกรน
    • คลิ๊กเม้าส์ถี่..มีโรค
    • ท่านอน..บอกนิสัยและสุขภาพ
    • "สิว"บนใบหน้าบอกโรค
    • ประโยชน์การทานผลไม้ 5 สี
    • ความลับของลมหายใจ
    • แก้อาการ..นอนไม่หลับ
    • นอนกรน..รักษาได้
    • หลับพียงพอ..ดีต่อร่างกาย
    • ล้างพิษลำไส้ด้วยโยเกิร์ต
    • สูตรสำเร็จ..การหลับให้ฝันดี
    • ปฏิบัติการย้อนวัย
    • การป้องกันและดูแลสุขภาพ
    • การดูแลสุขภาพองค์รวม
    • น้ำตาล..จอมวายร้าย
    • การบำบัดและฟื้นฟูสุขภาพ
    • วิธีกดจุดแก้ท้องผูก
  • โรคกรดไหลย้อน
  • โรคไมเกรน
  • โรคประสาทหูเสื่อม
  • โรคเกี่ยวกับดวงตา
    • โรคตาที่มากับคอนแทคเลนส์
    • เบาหวานขึ้นตา
    • โรคจอประสาทตาเสื่อม
    • โรควุ้นในตาเสื่อม
    • โรคต้อหิน
    • โรคต้อกระจก
    • โรคภูมิแพ้ขึ้นตา
  • บทความสุขภาพและเพศสัมพันธ์
    • เหนื่อยล้า..อ่อนเพลียเรื้อรัง
    • อยากหน้าเด็ก..เซ็กส์ช่วยได้!!
    • ความกังวลของ..บุรุษเพศ!!
    • ใครว่า?..สูงวัยมี"เซ็กส์"ไม่ได้
    • ผักผลไม้เพิ่มพลังเซ็กส์
    • เซ็กส์ที่ดี คือ การแพทย์แนวป้องกัน
    • เคล็ดลับ..ฟื้นฟูร่างกาย..ไม่หย่อน
    • สารพันปัญหา......เสื่อม???
  • บทความเกี่ยวกับสมองและสายตา
    • สร้างดวงตา..ให้ใสปิ๊ง!!
    • สมองซีกซ้ายและขวา..ทำงานอย่างไร?
    • แบบทดสอบความถนัดของสมองซีกซ้าย-ขวา
    • นิสัย..ทำร้ายสมอง
    • การเลือกแว่น..ให้ดีกับสายตา!!
    • การใช้สายตาในยุค' Gen S
    • 1 นาที..เปลี่ยนสายตาแย่เป็นเยี่ยม
    • แค่กำมือ..ช่วยให้จำแม่น!!
    • อัจฉริยะสร้างได้!!
    • แสงแดดอันตราย!!..ต่อดวงตา
    • การรักษาสายตายาว
    • ความฉลาดสร้างได้!!
    • ออกกำลัง..ป้องกันอัลไซเมอร์
    • 6 วิธีบริหารดวงตา
    • นอนกรน..ทำให้สมองเสื่อม?
    • ความจริงของดวงตา
    • บอกลาสายตาสั้นแบบธรรมชาติ
    • 7 สิ่งมหัศจรรย์ที่สมองทำทุกวัน
    • พักตาให้หายล้า..เมื่อดูทีวี
    • 90 นาทีนอนกลางวัน..จำได้นาน
    • 6 กิจกรรม..ทำให้ฉลาดคิด
    • 5 ผลไม้บำรุงสายตา
    • วิธีสร้าง..เซลล์สมอง
    • เซลล์สมองงอกได้!!
    • วิธีเพิ่มข้อมูลในสมอง
    • วิธีกดจุดรักษาอาการสายตาสั้น
    • เพื่อนใน facebook ยิ่งมาก..สมองยิ่งโต
    • อาหารบำรุงสมอง
    • 4 อาหารบำรุงสมอง
    • บริหารสมอง..ให้อ่อนเยาว์
    • เทคนิคฝึกสมอง..ประคองความจำ
    • ภาพฝึกสายตา
    • "ดวงตารับรู้ สมองประมวลผล"
    • สมอง 5 ส่วน
    • หลับตาขณะฟัง..จำได้ไวและแม่น!!
    • วิธีถนอมสายตา
    • ตรวจ"สายตายาว"แบบง่ายๆ..ด้วยตัวเอง!!
    • ภาพลวงตา..น่าเล่น!!
    • เมื่อคุณ!!..สายตายาว..ควรทำอย่างไร?
    • อาการปวดบ่า..เกิดจากความเสื่อมของดวงตา
    • สายตายาวโดยกำเนิด..เป็นอย่างไร?
    • ปัญหาสายตาและการมองเห็น
    • สมาร์ทโฟน..อันตรายไร้เสียงต่อสายตา
    • ถนอมสายตา..ด้วยท่าโยคะ
    • ท่าบริหารสายตาหน้าจอคอมพ์
    • ทดสอบสายตา..พาสนุก!!
    • "ตากระตุก"ลางร้ายหรือไม่?
    • สัญญานอันตราย!!..สมองเสื่อม
  • บทความเกี่ยวกับการลดน้ำหนัก
    • มาลดน้ำหนักกับอาร์ต..เทรนเน่อร์สวนสาธา& >
      • ตอนที่ 1 แรงบันดาลใจลดน้ำหนักจากหลักร้อ
      • ตอนที่ 2 ความมุ่งมั่นและตั้งใจ..เพื่อสุขũ
      • ตอนที่ 3 ลดน้ำหนักผิดวิธี..ชาตินี้ก็ไม่ผŪ
    • รอบเอว/รอบสะโพก..เสี่ยงต่อการเกิดโรค
    • ทานไขมัน..ลดความอ้วนได้
    • 7 วิธีขจัดเซลลูไลท์ตัวร้าย
    • ประโยชน์ของไขมันในร่างกาย
    • โปรตีนกับการลดน้ำหนัก
    • อ้วนลงพุง..โรคร้ายมาเยือน
    • เปลี่ยนพุงพลุ้ย..ให้เพรียวสวย
    • เต้นตามหัวใจ..อายุจะยืนยาว
    • 2 อย่า..ลดได้ไว
    • ลดอ้วน..ลดพุงง่ายๆ ด้วย 3 อ.
    • วิธีขจัดไขมัน..อย่างได้ผล
    • 20 เรื่องเข้าใจผิดกับการลดน้ำหนัก
    • เคล็ดลับสกัดพุงให้ไกล
    • ออกกำลังกายกลางแดด..อันตราย!!
    • เนรมิตหุ่นเพรียว..แบบง่ายๆ
    • ลดน้ำหนักที่ดี ไม่ควรเลี่ยงมื้้อเย็น
    • วิ่ง..ให้ผอมและดีต่อสุขภาพ
    • หุ่นสวย..สุขภาพดีมีเลือดฝาด
    • อาหารชะลอวัย
    • กีวี..กับการลดน้ำหนัก
    • 3 อ.ป้องกันอ้วน
    • กล้วย..ช่วยผอมสวย
    • ขนมหวาน..ความสำเร็จ
    • มะนาว.กับหุ่นเพรียว เปรี้ยวจี๊ดจ๊าด
    • สาวโครงสร้างใหญ่..ดูแลรูปร่างอย่างไร?
    • สาวบั้นท้ายดินระเบิด..ดูแลรูปร่างอย่าง&
    • หุ่นนาฬิกาทราย..ดูแลอย่างไร?
    • สร้างส่วนโค้ง-เว้า..กับสาวรูปร่างตรง
    • นอนหลับสนิท..ช่วยลดความอ้วน
    • "กล้วย"..ลดน้ำหนักมื้อเช้า
    • ชาร์ตแบตมือถือ..ทำให้อ้วน
    • เลิกนิสัยแบบนี้!!..ไม่อ้วน
    • มันเทศ..ลดนำ้หนักได้
  • การเลือกทานอาหารให้เป็นยา
    • ตำลึง..บำรุงสายตา
    • กระหล่ำปลี..กินดิบไม่ดี!!
    • ทานผักให้ได้ประโยชน์ที่สุด!!
    • มะขามป้อม..กับประโยชน์อเนกอนันต์
    • แตงโมกับร่างกาย
    • ทานกระเจี๊ยบ.. เป็นยา
    • มะเขือเทศ..ต้านมะเร็ง
    • แตงกวา..ลดน้ำหนักได้
  • ท่าบริหารลดน้ำหนัก-สุขภาพ
    • มือใหม่..ออกกำลังกายแบบไหนดี?
    • 4 ท่าออกกำลังกายสลายเซลลูไลท์
    • ท่าบริหารต้นขา สะโพก ก้นให้กระชับ
    • SQUAT ให้ต้นขา สะโพกตึงกระชับ
    • ท่าเพิ่มกล้ามท้องและเร่งเบิร์น
    • สร้างต้นแขนให้กระชับภายใน 3 สัปดาห์
    • ท่าบริหารเผาผลาญแคลอรี่อย่างรวดเร็ว
    • ท่าบริหารก้น..สำหรับมือใหม่
    • Plank สำหรับผู้เริ่มต้น
    • ท่าง่ายๆลดต้นขาใหญ่
    • 10 ท่านอนดูทีวีให้รูปร่างดีหุ่นเป๊ะ
    • ท่ายืดเส้นคลายเมื่อย..ระหว่างวัน
    • การวอร์มร่างกายก่อน-หลังออกกำลังกาย
    • ท่าออกกำลังกายบนเตียงนอน
    • การบริหารคอไหล่ให้คลายตึง
  • บทความน่าสนใจอื่นๆ
    • ผลการทดลอง..เอนไซม์กับร่างกาย
    • คำไว้อาลัยงานศพ..คุณหมอสุรพล รักปทุม
  • เคล็ดลับหุ่นสวย
    • ชุดกระชับสัดส่วน O'Lady
  • สมัครสมาชิก/ตัวแทน
  • ติดต่อเรา
  • คลายปมทุกข์
    • ภูเขาน้ำแข็งกับการสั่งจิตใต้สำนึก
    • ความรัก-การนอกใจ..กับกฏจักรวาล
Link
Picture

สัญญานเตือน!!..อาการโรคตับแข็ง

   อาการของโรคตับแข็งในระยะเริ่มแรกจะไม่แสดงออกอย่างชัดเจน ดังนั้นผู้ป่วยโรคตับแข็งจึงไม่ค่อยรู้ตัว โดยอาการของโรคตับแข็งที่พอจะสังเกตได้มีดังนี้
  + ท้องอืด ท้องเฟ้อ คล้ายอาหารไม่ย่อย
  + รู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน น้ำหนักลด
  + รู้สึกเจ็บบริเวณชายโครงขวาเล็กน้อยหรือคลำเจอก้อนที่ชายโครงขวา
  + ตัวเหลือง นัยน์ตาเหลือง เพราะตับขับน้ำดีออกจากร่างกายไม่ได้
  + อาจมีอาการคันตามเนื้อตัว
  + อารมณ์ทางเพศลดลง
  + ในผู้หญิงอาจมีประจำเดือนผิดปกติ เช่น ขาดหรือมาไม่สม่ำเสมอ มีหนวดขึ้น และในบางคนอาจมีแสงแหบแห้งคล้ายผู้ชาย
  + ผู้ชายอาจรู้สึกเจ็บนม อัณฑะฝ่อตัว บางคนอาจสังเกตเห็นฝ่ามือแดงผิดปกติ หรือมีจุดแดงที่หน้าอกและหน้าท้อง
  
 ตับเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย และเป็นหนึ่งในอวัยวะที่สำคัญที่สุด ตับมีขนาดใกล้เคียงกับขนาดของลูกฟุตบอล และอยู่ทางด้านขวาติดท้องด้านหน้า ในระดับถัดจาก ซี่โครงซี่ล่างสุด  ตับทำหน้าที่ผลิตสารที่ช่วยต่อสู้กับการติดเชื้อ และสารที่ทำหน้าที่ในการแข็งตัวของเลือด กรองสารพิษ และสารติดเชื้อจากเลือด ผลิตสารที่ช่วยในการย่อยสลายสารอาหารบางชนิด และเก็บพลังงานไว้เพื่อใช้ในภายหลัง
Picture
Picture

ตับแข็ง (Cirrhosis) 

  ตับแข็ง (Cirrhosis) เป็นโรคตับเรื้อรังที่เนื้อเยื่อตับจำนวนมากถูกทำลายจากการอักเสบเรื้อรังจนกลายเป็นพังผืด (Fibrous tissue) จนตับมีลักษณะแข็งกว่าปกติ เมื่อพังผืดเพิ่มขึ้นตลอดเวลา เนื้อเยื่อตับจะแข็งขึ้นและขนาดของตับจะหดเล็กลง เนื้อเยื่อตับที่เหลืออยู่จะพยายามซ่อมแซมตัวเองจนเกิดเป็นปุ่มก้อนเนื้อขึ้น  ตับจึงมีลักษณะเป็นตะปุ่มตะป่ำทั่วทั้งตับ ทำให้ตับไม่สามารถทำงานได้เป็นปกติ การอักเสบที่มากขึ้นทำให้เกิดการบวมของเนื้อเยื่อตับ ตับจะโตและคลำพบได้ สามารถพบได้ในทุกช่วงอายุตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้สูงอายุ มักพบมากในผู้ที่มีอายุระหว่าง 21-50 ปี เป็นโรคเรื้อรังที่ค่อนข้างรุนแรง อาจนำไปสู่ภาวะตับวายเฉียบพลัน และมีผลข้างเคียง เช่น การติดเชื้อรุนแรง อาเจียนเป็นเลือด
Picture

 กลไลการเกิดโรคตับแข็ง

 ตับได้รับความเสียหาย บาดเจ็บหรือถูกทำลายจากสุรา => ตับเกิดการอักเสบบวม => เนื้อเยื่อสร้างพังผืด ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ใต้ชายโครง =>บีบรัดทำให้ขนาดตับเล็กลง => เนื้อเยื่อที่เหลืออยู่ ซ่อมแซมตนเอง=>เกิดก้อนเนื้อเล็กๆ ตะปุ่มตะป่ำทั่วตับ => เนื้อเยื่อตับมีความแข็ง  =>ตับสูญเสียความสามารถในการทำงาน => โรคตับแข็ง
Picture
Picture

สาเหตุของโรคตับแข็ง

   โดยปกติเนื้อเยื่อตับจะนุ่มและมีผิวที่เรียบเนียน แต่ถ้าเนื้อเยื่อตับได้รับการบาดเจ็บและถูกทำลายจากการอักเสบเรื้อรังจากสาเหตุต่าง ๆ เนื้อเยื่อตับที่ถูกทำลายจะกลายเป็นพังผืดที่มีลักษณะคล้ายแผลไปแทรกและเบียดเนื้อตับที่ดี ทำให้เลือดไปเลี้ยงตับได้น้อยลง จึงส่งผลให้การทำหน้าที่ต่าง ๆ ของตับลดลงหรือไม่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างเป็นปกติ  สาเหตุหรือปัจจัยเสี่ยงที่พบได้บ่อย ๆ คือ
 +จากการดื่มแอลกอฮอล์ 80 กรัม/วัน ติดต่อกันเป็นเวลานาน 5-10 ปีขึ้นไป 60-70% ของตับแข็งจะเกิดจากสาเหตุนี้
 +จากโรคไวรัสตับอักเสบบีและซีเรื้อรัง ซึ่งเป็นสาเหตุที่พบได้ประมาณ 10%
 + จากโรคต่างๆ ของท่อน้ำดี เป็นสาเหตุที่พบได้ประมาณ 10% เช่น ท่อน้ำดีอักเสบเรื้อรัง ท่อน้ำดีอุดตัน อาจทำลายเนื้อตับจนกลายเป็นตับแข็งได้
 + จากภาวะร่างกายมีธาตุเหล็กสูง ธาตุเหล็กจึงไปสะสมในตับส่งผลให้เกิดโรคตับแข็ง เช่น ในโรคธาลัสซีเมีย (เป็นสาเหตุที่พบได้ประมาณ 5-10%)
 + ภาวะหัวใจวายเรื้อรัง  การมีเลือดคั่งที่ตับและปริมาณเลือดที่ไหลเวียนในตับลดลงจนอาจทำให้เนื้อตับขาดออกซิเจนและตายลง
 + ภาวะที่มีไขมันสะสมอยู่ที่ตับมาก จนกระตุ้นให้เกิดภาวะตับอักเสบเรื้อรังและกลายเป็นตับแข็งในที่สุด
 + โรคตับอักเสบจากภูมิต้านทานตนเอง (Autoimmune Hepatitis)
 + ภาวะขาดโภชนาการ ความผิดปกติของการเผาผลาญอาหาร  
 + การใช้ยาเกินขนาดหรือได้รับสารเคมีหรือสารพิษบางชนิดติดต่อกันเป็นเวลานาน  

อาการของโรคตับแข็ง 

อาการระยะแรกเริ่ม...โดยเมื่อเริ่มเกิดโรคเนื้อเยื่อตับจะมีขนาดปกติได้ แต่เมื่ออักเสบมากขึ้นจนตับโต จะส่งผลให้สมรรถภาพการทำงานของตับลดลง มักเกิดขึ้นในช่วงอายุระหว่าง 40-60 ปี แต่ถ้าพบในคนอายุน้อยอาจเกิดจากโรคตับอักเสบจากไวรัสชนิดรุนแรง จากการใช้ยาผิดหรือสารเคมีบางชนิด และนำมาสู่สุขภาพร่างกายที่แย่ลงด้วย   อาการที่สังเกตได้ เช่น
+ อาการตัวเหลือง ตาเหลือง และปัสสาวะสีเข้มขึ้น (Jaundice)
+ ฝ่ามือแดงทั้งสองข้าง (Palmar erythema)
+ มีจุดแดงรูปแมงมุมที่หน้าอก หน้าท้อง จมูก ต้นแขน (Spider telangiectasia)
+ ต่อมน้ำลายที่บริเวณกรามทั้งสองข้างโตขึ้น (Parotid gland enlargement)
+ เท้าบวม ท้องบวม (Ascites)
+ เส้นเลือดที่บริเวณรอบสะดือขยาย (Caput medusae)
+ อาการนมโตและเจ็บในผู้ชาย (Gynecomastia)
+ อัณฑะฝ่อตัวหรือเล็กลง (Testicular atrophy)
+ คลำตับได้มีลักษณะค่อนข้างแข็ง
+ มีรูปร่างผอมแห้ง ซีด ท้องโตมาก หลอดเลือดพองที่หน้าท้อง มือสั่น
+ ม้ามโต ภาวะนิ้วปุ้ม มีจุดแดงจ้ำเขียวตามผิวหนัง

+ อาการคลื่นไส้อาเจียน ร่างกายอ่อนเพลีย หมดแรง
+ อาการคันตามตัว ตามผิวหนัง
+ อาการเลือดไหลแล้วหยุดยาก
+ ติดเชื้อได้ง่าย ป่วยจาก การติดเชื้อบ่อย เพราะ ภูมิต้านทานต่ำ
+ หลอดเลือดดำขยายตัว อาเจียนมีเลือดปน
+ ซีด เม็ดเลือดแดงถูกทำลายที่ม้าม
     โรคตับแข็งระยะแรก ผู้ป่วยมักไม่มีอาการหรือมีอาการผิดปกติน้อยมากหรือไม่ชัดเจน โดยอาจมีเพียงอาการท้องอืดท้องเฟ้อคล้ายอาหารไม่ย่อย แต่ต่อมาเป็นแรมปีจะเริ่มรู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ไม่มีแรง เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียนเป็นบางครั้ง น้ำหนักตัวลดลง เท้าบวม
อาการระยะสุดท้าย
    เมื่อเป็นโรคตับแข็งอยู่หลายปีหรือยังคงดื่มเหล้าหนัก อาการของโรคตับแข็งระยะสุดท้ายจะสังเกตได้จาก
 + มีไข้เรื้อรัง ขาบวม ท้องบวม
 + สังเกตเห็นหลอดเลือดบริเวณหน้าท้องพองบวม
 + อาเจียนเป็นเลือด เนื่องจากเกิดภาวะหลอดเลือดขอดที่หลอดอาหารแตก อาจทำให้เสียเลือดมากจนเสียชีวิตได้
 + ในระยะสุดท้ายที่ตับวายไปแล้ว ก็จะเกิดอาการทางสมอง เช่น ซึม เพ้อ ไม่รู้สึกตัว
 + 
ความดันเลือดในตับสูง สับสน ตับวาย โคม่า เสียชีวิต

​ภาวะแทรกซ้อนของโรคตับแข็ง

+ ติดเชื้อได้ง่าย เพราะภูมิคุ้มกันต้านทานโรคลดลง
+ ภาวะซีด แน่นอึดอัดท้องจากม้ามโตและ/หรือมีน้ำในท้อง (ท้องมาน)
+ ฟกช้ำหรือเลือดออกได้ง่าย
+ อาเจียนเป็นเลือด (เนื่องจากหลอดเลือดที่หลอดอาหารขอดแล้วแตก)
+ มีความไวต่อยาและผลข้างเคียง (ไม่สามารถกรองยาออกจากเลือดได้ในอัตราปกติ ตัวยาจึงออกฤทธิ์ได้นานขึ้นและสะสมอยู่ในร่างกาย)
+ มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งเซลล์ตับสูงกว่าคนปกติประมาณ 5%
+ พังผืดหรือเนื้อเยื่อแผลเป็นกดทับหลอดเลือดดำภายในตับ ทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูงในหลอดเลือดดำของตับ   
+ หลอดเลือดฉีกขาด มีเลือดไหลเข้าสู่ลำไส้ และเกิดการสะสมของของเหลวทั่วร่างกาย
+ เลือดออกในทางเดินอาหาร  เพราะการไหลเวียนย้อนกลับของเลือดจากกระเพาะอาหารและหลอดอาหาร
+ เส้นเลือดดำบริเวณต่างๆขยายตัวโป่งพอง (Varices)
+ ริดสีดวงทวาร
+ น้ำคั่งในช่องท้อง (Ascites)ของเหลวจากหลอดเลือดย้อนมารวมกัน
+ โรคสมองจากตับ เพราะสารพิษอยู่ในกระแสเลือดเป็นปริมาณมาก
+ ภาวะไตวายจากโรคตับแข็ง
Picture

ข้อควรปฏิบัติในการดูแลตนเอง

  โรคนี้ยังไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้ เพราะเนื้อเยื่อตับที่ถูกทำลายไปแล้วมิอาจหาทางเยียวยาให้ฟื้นตัวได้ อาการจึงมีแต่ทรงกับทรุด แต่ถ้าเป็นโรคตับแข็งในระยะแรกและปฏิบัติได้อย่างเหมาะสมก็จะสามารถมีชีวิตอยู่ได้นานเกิน 5-10 ปีขึ้นไป แต่หากปล่อยให้มีภาวะแทรกซ้อนชัดเจน เช่น ท้องมาน ดีซ่าน อาเจียนเป็นเลือด ก็อาจมีชีวิตอยู่ได้เพียง 2-5 ปี แต่สามารถที่จะดูแลและรักษาสุขภาพได้ดังนี้
+ ตรวจสุขภาพเป็นประจำหลังตรวจพบและรักษากับแพทย์คนใดคนหนึ่งเป็นประจำ โดยปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
+ ไปพบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามการรักษาอย่างสม่ำเสมอ และรีบไปพบแพทย์ก่อนนัดเมื่อมีอาการผิดปกติ
+ ควรตรวจเลือดหาสารแอลฟาฟีโตโปรตีน (Alpha fetoprotein – AFP) ทุก 3-6 เดือน
+ ฉีดวัคซีนป้องกันโรคตามที่แพทย์แนะนำ เช่น วัคซีนสำหรับโรคไวรัสตับอักเสบเอและบี ไข้หวัดใหญ่ และโรคปอดบวม
+ เลิกหรือหลีกเลี่ยงสาเหตุ เช่น การเลิกดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ใช้ยาหรือสารใด ๆ โดยไม่ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
+ ห้ามรับประทานยาเกินขนาด เพราะยาส่วนใหญ่จะถูกทำลายที่ตับ ซึ่งอาจทำให้ภาวะตับแย่ลงกว่าเดิม
+ ควรเลือกกินคาร์โบไฮเดรตประเภทเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต
+ ควรทานอาหารประเภทไขมันให้น้อยลงกว่าปกติ และควรหลีกเลี่ยงไขมันจากสัตว์ให้ใช้ไขมันจากพืชแทน เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันรำข้าว
+เลือกทานอาหารจำพวกโปรตีนที่ย่อยได้ง่ายและมีคุณภาพดี เช่น ปลา ไข่ นม หรือโปรตีนจากพืช (เช่น ถั่วเหลือง)
+ หลีกเลี่ยงอาหารที่ชื้นง่าย เช่น พริกป่น ถั่วป่น ที่เป็นแหล่งของสารอะฟลาทอกซิน (Aflatoxin)
+ ควรจำกัดเกลือและงดหรือลดการรับประทานอาหารเค็ม โดยการหลีกเลี่ยงการเติมเครื่องปรุงรสชนิดต่าง ๆ จำพวกน้ำปลา ซีอิ๊ว
+ ควรหลีกเลี่ยงขนมขบเคี้ยวต่าง ๆ และห้ามดื่มน้ำเกินวันละ 6 แก้ว
+ ระวังอย่าให้มีอาการท้องผูก ด้วยการรับประทานผักและผลไม้
+ หลีกเลี่ยงการออกกำลังที่ต้องใช้การเบ่งหรือเกร็ง
+ รักษาความสะอาดและดูแลสุขอนามัย เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อต่าง ๆ
+ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
+ ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์เหมาะสม

+ พักผ่อนให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
+ รักษาที่สาเหตุและประคับประคองตามอาการ ตามภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ จากโรคตับแข็ง เช่น ท้องมานงดอาหารเค็ม และจำกัดปริมาณน้ำที่ดื่ม
 + รักษาด้วยยาแพทย์แผนจีน มุ่งเน้นไปที่การปรับสมดุลของตับ ทำให้เลือดไหลเวียนได้สะดวก และป้องกันไม่ให้เนื้อเยื่อตับเกิดพังผืด
+ การปลูกถ่ายตับ  อาจได้ผลเฉพาะในผู้ป่วยบางรายที่มีสุขภาพแข็งแรงและไม่มีโรคประจำตัวเท่านั้น
    โรคตับแข็งเป็นโรคเรื้อรังของตับที่เกิดจากการอักเสบขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน จนมีแผลเป็นเกิดขึ้นบนเนื้อเยื่อตับปกติ ทำให้อวัยวะนี้ไม่สามารถทำงานเต็มที่ได้ตามที่ควร หากความเสียหายยังลุกลามต่อไปเรื่อย ๆ ตับจะค่อย ๆ สูญเสียความสามารถในการทำหน้าที่ตามปกติมากขึ้น ซึ่งหากถึงขั้นนี้ จะเรียกว่า ภาวะตับวาย (Liver failure) หรือในบางกรณี อาจเรียกว่า โรคตับระยะสุดท้าย (End-stage liver disease) หากกำลังรู้สึกว่าช่วงนี้ร่างกายอ่อนแอลงไปมาก ควรต้องหันมาใส่ใจสุขภาพอย่างจริงจังและเริ่มต้นออกกำลังกายกันแล้วค่ะ
ANZIMA อาหารเสริมบำรุงตับ ล้างสารพิษในตับ
     ช่วยบำรุง ฟื้นฟู เสริมการทำงานในระดับเซลล์ของตับ สำหรับผู้ที่ดื่มสุรา และช่วยบำรุงกระตุ้นการทำงานของตับ กระตุ้นการหมุนเวียนของระบบเลือดในร่างกาย ทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น กำจัดความเป็นพิษที่ตกค้างอยู่ในร่างกาย ต้านอนุมูลอิสระ ลดการทำลายเซลล์ตับจากสารพิษอยู่เสมอ ตับเป็นอวัยวะที่มีหน้าที่สำคัญมากกว่า 500 อย่าง เป็นอวัยวะที่ทำงานตลอดเวลา ไม่เคยพักเลย (เช่นเดียวกับสมอง หัวใจ และปอด) ทำหน้าที่กำจัดสารพิษต่างๆ ในอาหารทุกคำ ยาทุกเม็ด ที่เรากินล้วนมีสิ่งที่ตับต้องกำจัดทั้งสิ้น
Picture
 แอนซิม่า (Anzima) เอนไซม์จากจุลินทรีย์โปรไบโอติค 
       "กุญแจไขความลับสู่สุขภาพที่ดี"
        ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแอนซิม่า เหมือนกันกับการเติมน้ำให้ชีวิตที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อให้เรียบเสมอกัน ช่วยในการชะลอวัย ทำให้ดูเป็นหนุ่มเป็นสาวกว่าอายุที่แท้จริง   ช่วยทำให้เซลล์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ   4 ประการ   คือ
·       กระบวนการย่อยสมบูรณ์ทั้งระบบ ทำให้เซลล์ได้รับอาหาร และออกซิเจนเต็มที่
·       ย่อยสลายสารพิษที่ตกค้าง ในเลือด และในอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะที่ ตับ และไต
·       ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อรา พร้อมเพิ่มคุณภาพภูมิต้านทานต้านเชื้อไวรัส
·       ต่อต้านอนุมูลอิสระที่จะมาทำร้ายเซลล์

​สรรพคุณ
  • ​ช่วยขับล้างสารพิษ และลดการสะสมสารพิษในร่างกาย
  • ลดการสะสมไขมันเนื้อในตับ
  • ป้องกันตับและลดการสะสมสารพิษในตับ
  • เสริมสร้างและกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย
  • มีส่วนประกอบของสารต้านอนุมูลอิสระ
  • ดึงเศษซากเซลล์ตายออกจากกระแสเลือด
  • บำรุงเซลล์ตับให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
  • ปรับตับและถุงน้ำดีให้กำจัดไขมันได้ดีขึ้น
  • ดึงไขมันที่สะสมในระบบทางเดินอาหารและกระแสเลือด มาใช้เป็นพลังงาน
  • การไหลเวียนของเลือดสะดวก พาออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์ร่างกายได้ทั่วถึง
  • ผิวสดใสขึ้นลดการเกิดสิว
  • ปรับสมดุลองค์รวมร่างกาย ส่งผลให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น
​จุดเด่นของแอนซิม่า
 -ช่วยบำรุงกระตุ้นการทำงานของตับ ล้างสารพิษในตับ เพราะตับคืออวัยวะที่สำคัญของร่างกาย ผลิตน้ำดีและน้ำย่อย
-ข่วยป้องกัน ตับอักเสบ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคดีซ่าน(ตัวเหลืองตาเหลือง)และโรคตับแข็ง (Cirrhosis)
-ช่วยในการป้องกันตับถูกทำลายจากสารพิษต่างๆ (สารพิษตกค้างในตับ) ช่วยดีท็อกซ์ตับ เช่นแอลกอฮอลล์
-ช่วยทำให้ร่างกายของเรารู้สึกสดชื่น กระปรี้ กระเปร่า เนื่องจากมีผลในการกระตุ้นการทำงานระดับเซลล์ ป้องกันตับอักเสบ และไขมันเกาะตับ
-ช่วยยับยั้งการเกิดออกซิเดนซ์ ทำให้ผิวพรรณกระจ่างใสไร้ริ้วรอย แก้อาการตัวเหลืองตาเหลือง
สนใจสอบถาม/สั่งซื้อ
​ Call center : โทร. 088-536-2211 088-536-3322 088-536-4433 02-444-6544
ID line :  Enzyme.co.th

Follow LINE Official ID @jqk0152o : https://bit.ly/2KuayDT
Follow Fanpage Biowist.co.th : https://bit.ly/2w61GRN
Follow Instagram enzymebiowist : https://bit.ly/2Ig6qcm
Button Text
สนใจสอบถาม/สั่งซื้อ
สมัครสมาชิก